หน้า  1   2   3   4  

-1-

อ่านหน้าต่อไป

 
 
   

          การใช้สมุนไพรสำหรับรักษาอาการโรคต่างๆ ของแพทย์แผนไทย มีหลายวิธีด้วยกัน เช่น ยาต้ม พอก ทา นวด สูบ นัตถุ์ ประคบ รมควัน อบ ฯลฯ ซึ่งแต่ละวิธีใช้จะแตกต่างกันออกไป และจะเหมาะสำหรับโรคแต่ละโรคด้วย การใช้สมุนไพรต้มเพื่ออบตัว ใช้กันมาตั้งแต่โบราณ นิยมใช้กับสตรีหลังคลอด หรือใช้รักษาโรคบางโรค ตัวยาส่วนใหญ่จะเป็นพวกที่มีน้ำมันหอมระเหย เมื่อได้รับความร้อนจากการต้ม น้ำมันหอมระเหยก็จะออกมา และเป็นตัวช่วยบำบัดรักษาโรคบางโรคได้ ผู้เข้าอบสมุนไพรจะสูดดมเข้าไป หรือสัมผัสกับน้ำมันหอมระเหยที่รวมอยู่กับน้ำต้ม นอกจากนั้นความร้อนที่อบยังช่วยให้เลือดลมของผู้เข้าอบไหลเวียนดียิ่งขึ้น

การอบสมุนไพรถ้าใช้กับสตรีหลังคลอดจะเรียกว่า " การเข้ากระโจม" ในสมัยก่อน การแพทย์แผนปัจจุบันยังไม่เจริญ การคลอดบุตรมักจะใช้ "หมอตำแย" (เป็นสุภาพสตรี ไม่ใช่สุภาพบุรุษ) มาช่วยทำคลอดที่บ้าน เมื่อคลอดแล้วแม่ก็ต้อง "อยู่ไฟ" หรือนอน "กระดานไฟ" เป็นเวลา 7-10 วัน คนโบราณถือว่ายิ่งอยู่ไฟได้นานยิ่งดี ระหว่างนอนบนกระดานไฟ จะสุมไฟให้ครุกรุ่นอยู่ตลอดเวลาไม่มีการอาบน้ำ รวมทั้งต้องรับประทานยาดองเหล้าเพื่อขับน้ำคาวปลา อาหารก็ให้รับประทานแกงเลียงผักเพื่อช่วยเพิ่มน้ำนม และอาหารมีรสร้อนๆ เช่น ขิงผัด หมูทากระเทียมใส่พริกไทยมากๆ หลังจากทนนอนอยู่บนกระดานไฟยาวนาน 7-10 วันแล้ว เนื้อตัวจะเหนียวเหนอะหนะ ก็ถึงเวลาที่จะต้องเข้าอบอาบสมุนไพร เพื่อชำระล้างตัวให้สะอาด

 

การเข้าอบสมุนไพรมีประโยชน์อย่างไร

  • ความร้อนจะช่วยให้เลือดไหลเวียน

  • ทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว (มดลูกหดเข้าที่ เพราะตอนท้องมดลูกจะขยายตัวออกมามาก)

  • น้ำคาวปลาที่คั่งค้างอยู่ จะถูกขับออกมาให้หมดและเร็วขึ้น

  • แผลที่ช่องคลอดจะแห้งเร็วขึ้น (การแพทย์แผนปัจจุบันจะใช้การอบด้วยไฟธรรมดา หรือ heat lamp เป็นเวลาประมาณ 10 นาที)

  • ช่วยลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกายที่ต้องอุ้มท้องมา 9 เดือน และนอนบนกระดานไฟอีกระยะหนึ่ง

  • จะช่วยให้มีสุขภาพพลานามัยดีตลอดไป เพราะบางคนที่คลอดแล้วไม่ได้อยู่ไฟ ไม่อบอาบสมุนไพร และไม่ประคบ ฯลฯ พอสูงอายุสุขภาพอาจไม่ดีเท่าที่ควร

          ปัจจุบันการอบอาบสมุนไพร กำลังเป็นที่นิยมแพร่หลาย ไม่เฉพาะหญิงหลังคลอดเท่านั้น เพระประโยชน์ของการอบอาบสมุนไพรมีมากมาย

ด้านความงาม

  • เมื่ออบอาบสมุนไพรแล้ว จะช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ความร้อนจะไปช่วยขยายรูขุมขนให้กว้างขึ้น สามารถขับสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ออกมา จึงทำให้ผิวพรรณดูผุดผ่องสดใสเปล่งปลั่ง

  • ช่วยลดความมันบนใบหน้าช่วยทำให้ผิวหน้าสะอาด ไขมันที่อุดตันที่ใบหน้าถูกขับออกทำให้ไม่เกิดสิว

  • ช่วยลดน้ำหนัก บางท่านที่มีน้ำหนักเกินงาม ถ้ารับประทานยาช่วยลดน้ำหนัก จะเกิดผลเสีย เพราะผลข้างเคียงจะเกิดตามมาอย่างมากมาย ผู้ที่รับประทานยาลดความอ้วน เมื่อหยุดยา จะกลับอ้วนเท่าเดิม ภายในระยะเวลาเพียงสั้นๆ แต่ถ้าใช้การอบอาบสมุนไพรจะได้ผลดีกว่าและยังปลอดภัยอีกด้วย ในขณะเดียวกันก็จะมีสุขภาพดี ผิวพรรณผุดผ่องสดชื่น มีน้ำมีนวล นักมวยที่จะขึ้นสังเวียนชก ถ้าน้ำหนักเกินพิกัดเล็กน้อย นิยมใช้การอบไอน้ำช่วย ไม่นิยมรับประทานยาลดน้ำหนัก ซึ่งจะได้ผลดี เพราะร่างกายไม่อ่อนเพลีย แต่กลับสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้น หลังจากอบอาบสมุนไพรแล้ว

ด้านสุขภาพพลานามัย

  • การอบอาบสมุนไพรจะช่วยทำให้การไหลเวียนของโลหิตจะดีขึ้น ชาวบ้านจะพูดว่า "ทำให้เลือดลมเดินสะดวก"

  • หลังการอบอาบสมุนไพร การไหลเวียนของโลหิตจะดีขึ้น จะรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามีชีวิตชีวา "ลดการเซื่องซึม" (ใช้ในผู้ติด "สารเสพติด" จะเห็นผล)

  • ช่วยขยายหลอดลม ปอดจะทำหน้าที่ได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ทางเดินหายใจคล่อง

  • บรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ รู้สึกสบายตัว กระฉับกระเฉง แลดูหนุ่มสาวกว่าวัย

  • ช่วยรักษาโรคผิวหนังบางชนิด เช่น เม็ดผื่นคัน เพราะในตัวยาสมุนไพรที่ต้มอบอาบจะมีตัวยากลุ่มที่ใช้รักษาโรคผิวหนังรวมอยู่ด้วย

  • ลดอาการบวม ปวดตามข้อ และกระดูกอักเสบเรื้อรัง

  • ความร้อนในการอบสมุนไพร จะช่วยขยายรูขุมขนให้ใหญ่ขึ้น ทำให้สารพิษบางส่วนถูกขับออกมาพร้อมกับเหงื่อ (คนไข้ที่ติดสารเสพติดจะเห็นผลได้ชัด) ถ้าเป็นคนธรรมดา ก็จะทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งขึ้น

  • ปรับสมดุลของร่างกายให้เข้ากับสภาวะแวดล้อมที่แปรปรวนได้